Credit & Building Credit (เครดิตและการสร้างเครดิต)
วันนี้อยากจะมาพูดเรื่องของการใช้เงินในอเมริกานะครับ โดยส่วนมากแล้วฝรั่ง (ขอแทนคนอเมริกันว่า “ฝรั่ง” แล้วกันนะครับ) จะไม่นิยมใช้เงินสดกันนะครับ วิธีที่นิยมจะเป็นการตีเช็คและใช้บัตรเครดิต ซึ่งบัตรเครดิตน่าจะได้รับความนิยมมากกว่าทั้งในการซื้อสินค้าและบริการและการให้ทิป การให้ทิปอาจจะเป็นเงินสดก็ได้ครับแต่รูดบัตรได้เช่นกัน
สำหรับฝรั่งแล้วเขาจะมีการสร้างเครดิตกันตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่นนะครับโดยการใช้บัตรเครดิตของพ่อกับแม่นั้นเอง ซึ่งในช่วงแรกๆนี้ทางพ่อแม่จะคอยซัพพอร์ต จ่ายยอดใช้จ่ายในบัตรให้ตรงตามกำหนด เป็นการสร้างเครดิตให้กับลูกๆหลานๆ
เวลาซื้อสินค้าและบริการในอเมริกาที่เป็นชิ้นใหญ่ๆ มูลค่าสูงๆนั้น ทางร้านค้าจะเสนอให้ซื้อด้วยเครดิตได้โดยเขาจะขอเช็คประวัติเครดิต (Credit History) และคะแนนเครดิต (Credit Score) เพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าจะปล่อยวงเงินให้เราซื้อของได้เท่าไร ยิ่งคะแนนเครดิตสูงก็จะยิ่งได้วงเงินซื้อสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งสินค้าและบริการมากมายเลยนะครับที่ใช้คะแนนเครดิตในการสมัคร/ซื้อ/ชำระ ค่าสินค้าและบริการได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์, เช่าบ้าน/อพาร์ทเม้นท์, ค่ามือถือรายเดือน, ค่าอินเตอร์เนต/เคเบิ้ลทีวี ฯลฯ
คำถามสำคัญคือ “แล้วเราจะมีประวัติกับคะแนนเครดิตได้ยังไงบ้างล่ะ?” นี่แหละครับที่เป็นประเด็น มันมีทางออกอยู่สองสามทางนะครับ เดี๋ยวจะมาแยกให้ฟังทีละข้อๆ นะครับ เริ่มจากทางเลือกยอดฮิตก่อนนะครับ
- สมัครบัตรเครดิตแบบฝากเงินประกัน
บัตรเครดิตโดยปกติสำหรับคนต่างชาติอย่างเราๆที่เพิ่งไปอมเริกา จะไม่สามารถสมัครได้เลยครับ เพราะเราไม่มีประวัติอะไรกับประเทศเขาเลย เราเป็นใครก็ไม่รู้ ดังนั้นสมัครบัตรเครดิตแบบยื่นเอกสารและได้วงเงินมา ไม่มีทางเกิดขึ้นสำหรับคนที่เพิ่งได้ไปอเมริกาครับ แต่ทางออกคือสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินประกันไว้เป็นวงเงินครับ ซึ่งตามหลักก็คือ เงินประกันเราฝากไว้เท่าไร วงเงินเราก็ได้เท่านั้นครับ ถ้าผมจำไม่ผิด วงเงินขั้นต่ำคือ USD$1,000 หรือประมาณ 34,000 บาทโดยประมาณ คราวนี้ก็อยู่ที่เราแล้วล่ะครับว่าจะใช้จ่ายยังไงชำระยอดในบัตรยังไง กฎเหล็กคือ ต้องใช้และต้องชำระให้ตรงตามกำหนด เต็มจำนวน!!!
- ใช้ญาติหรือเพื่อนให้เป็นประโยชน์
หากเรามีญาติหรือเพื่อนอยู่ในอเมริกาอยู่แล้ว เขาต้องมีที่อยู่อาศัยอยู่แล้วและต้องมีการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ (ภาษาอังกฤษเรียกรวมๆว่าค่ายูทิลิตี Utility Bills) เราก็อาจขอให้เขาใส่ชื่อเราเข้าไปในส่วนของผู้อยู่อาศัยและลงชื่อเราเป็นผู้ชำระค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดเครดิตขึ้นมาได้ครับ
- กู้ร่วมกับผู้ที่มีประวัติดี
ข้อนี้อาจจะยากหน่อยที่จะขอให้ใครกู้อะไรร่วมกับเราเพราะโดยนิสัยของฝรั่งแล้วจะไม่ยอมกู้อะไรกับใครเลยครับ ดังนั้นอาจต้องขอจากญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่อยู่อเมริกา หรืออาจจะเป็นแฟนของเพื่อนเรา (ที่เป็นอเมริกัน) 555 ซึ่งเราก็อาจเริ่มจากการกู้ซื้ออะไรเล็กๆเช่นรถมือสอง ซึ่งรถที่อเมริการาคาไม่แรงครับ เรากู้ เพื่อนค้ำ หรือกู้ร่วม
สำหรับผมแล้ว จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมรู้สึกว่าการทำบัตรเครดิตแบบจำกัดวงเงินตามข้อ 1 ได้ผลมากที่สุดและรวดเร็วสุดครับ ตอนที่ผมเพิ่งไปแรกๆ ผมทำวงเงินไว้ USD$3,000 และใช้ซื้อทุกอย่างในชีวิตประจำวันครับ ทั้งค่าน้ำค่าไฟ, อาหาร, ซื้อของที่ซุปเปอร์ฯ ฯลฯ และจ่ายครบจำนวนตามรอบบัตร บางครั้งเดือนหนึ่งผมจ่ายเต็มจำนวน 2 ครั้งใน 1 รอบบิลด้วยซ้ำ 555 ทำยังไงน่ะเหรอ ก็ขอเพื่อนใช้บัตรเรารูดและให้เพื่อนจ่ายคืนเราเป็นเงินสดนั้นเองครับ หลังจากที่ทำและใช้บัตรแบบนี้ได้สัก 3-4 เดือน ผมก็เริ่มได้รับจดหมายเรียนเชิญให้สมัครบัตรเครดิตจากธนาคารต่างๆแล้วครับ ถึงแม้วงเงินจะไม่เยอะมากแต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งบัตรเครดิตแบบจำกัดวงเงินนั้นทางธนาคารจะบังคับให้เราใช้อย่างน้อยสัก 6 เดือนนะครับถ้าจำไม่ผิด และถึงแม้จะมีบัตรเครดิตอื่นๆยื่นข้อเสนอและเราสมัครได้ก็ตาม แนะนำว่าให้ใช้ต่ออีกสักหน่อย ถ้าใช้ไหวจนถึง 1 ปีก็ยิ่งดีครับ
สิ่งสำคัญในการเพิ่ม Credit Score
- On Time Payments
การจ่ายเงินตรงตามกำหนด สำคัญมากถึงมากที่สุด
- Credit Utilization
การใช้วงเงินเครดิต คือได้เครดิตมาและใช้ และชำระครบ
- Age of Credit
อายุของประวัติเครดิตเรา ยิ่งเครดิตดีนานๆ ยิ่งดี แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักมาก
- Credit Inquiries
การยื่นขอเครดิต ยิ่งขอบ่อยและได้รับอนุมัติบ่อย ชำระครบไวยิ่งดี
- Derogatory Marks
เป็นคะแนนความประพฤติด้านความรับผิดชอบต่อเครดิตของเรา หากมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น มันจะอยู่บนประวัติเครดิตเรานานถึง 7 ปีเลยทีเดียว พฤติกรรมไม่ดีก็เช่น การโดนทวงถามติดตามหนี้, การแจ้งล้มละลาย ฯลฯ